นักศึกษาชาวไทยผู้นี้ได้ช่วยชีวิตคุณแม่ของเขาได้ทันในวินาทีสุดท้าย ก่อนที่เธอจะสูญเสียการมองเห็นไปอย่างถาวร - นี่คือการค้นพบทางการแพทย์ครั้งสำคัญของไทย!
นายอดุลย์ แสงจันทร์ อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ กลายเป็นคนดังถูกพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา พร้อมกับอาจารย์เชี่ยวชาญพิเศษด้านจักษุวิทยาร่วมกันทำงานเพื่อพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ เพื่อป้องกันความผิดปกติของการมองเห็น บรรเทาอาการทางสายตา และลดความเสี่ยงตาบอดในอนาคต ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เขาเลือกพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ก็มาจากชีวิตส่วนตัวของเขาเอง
การทดสอบทางคลินิกของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นโดยนักศึกษาแพทย์ผู้นี้ได้พิสูจน์แล้วว่า สามารถบำรุงสายตาและฟื้นฟูการมองเห็นได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เขาทำได้อย่างไร? ค้นหาคำตอบได้แล้ววันนี้ในรายงานพิเศษของเรา
ทุกคนในครอบครัวของผมมีปัญหาเกี่ยวกับสายตากันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ คุณยายตาบอดสนิทตอนอายุได้ 83 ปี และผมก็อดกังวลไม่ได้ว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยไหม ปรากฎว่า สิ่งที่ผมกลัวมันก็เกิดขึ้นจริงๆ แม่เป็นแบบนั้นเหมือนกับคุณยายเลยครับ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนผมกำลังเรียนอยู่ชั้นปี 4 ในคณะแพทยศาสตร์ คุณแม่ถูกวินิจฉัยจากหมอว่า ตาบอดเป็นบางส่วน เพราะการมองเห็นลดลงเหลือเพียงแค่ 35% เท่านั้น
คุณแม่เป็นโรคสายตายาวมานานหลายปีแล้วและใส่แว่นอยู่ตลอด แต่ผมไม่เคยคิดเลยว่าอาการของแม่จะรุนแรงขึ้นรวดเร็วแบบนี้ ตอนแรกผมตกใจมาก หลังจากนั้นผมก็รู้สึกอาย เพราะผมเรียนใกล้จะจบแล้ว อีกนิดเดียวก็จะกลายเป็นคุณหมอแล้วด้วย แต่ไม่เคยสังเกตเลยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับแม่นั้นเป็นอาการที่น่าเป็นห่วงมากขนาดไหน ตอนนี้สายตาของแม่กำลังแย่ลงเรื่อยๆ เหลือเพียงแค่ 35% ยิ่งถ้าเจอแสงสว่างมากๆ ก็จะมีอาการแสบและปวดตาบ่อยๆ แต่พออยู่ในที่มืดอาการก็จะยิ่งแย่ลงไปอีก แม่แทบจะใช้ชีวิตคนเดียวไม่ได้และร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง เพราะเธอรู้สึกว่าใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
เพราะเรื่องนี้นายอดุลย์จึงตัดสินใจทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อหาหนทางรักษาสายตาของคุณแม่ให้กลับเป็นปกติอีกครั้ง
ผมจึงตัดสินใจเข้าไปปรึกษากับอาจารย์ที่ผมเคารพรัก ศ.ดร.ศิริชัย นิธิวัตรธนะ อาจารย์เป็นแพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยาที่มีประสบการณ์มากว่า 42 ปี และเชี่ยวชาญในด้านอาการตาบอดเป็นพิเศษ ผมได้เล่าปัญหาของผมให้อาจารย์ฟัง แล้วอาจารย์ก็ตอบตกลงช่วยผมในทันที ผมรู้สึกขอบคุณและเป็นหนี้บุญคุณกับอาจารย์ศิริชัยจริงๆ ครับ
ด้วยความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาจากอาจารย์ศิริชัย อดุลย์เริ่มศึกษาสารสกัดที่มีส่วนช่วยบำรุงสายตาทันที
ผมและอาจารย์ใช้เวลาทำงานในห้องปฏิบัติการด้วยกันมาตลอดหลายเดือน บางวันผมก็ค้างคืนอยู่ที่นั่น พอตอนเช้าก็ตื่นมาเข้าห้องเรียนต่อ ผมพร้อมที่จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อคืนการมองเห็นให้แม่อีกครั้ง แต่ค้นหาอย่างไรก็เหมือนกับว่าสารสกัดสำคัญเหล่านั้นถูกค้นพบโดยคนอื่นมาก่อนหมดแล้ว
ผมเกือบจะยอมแพ้แล้วครับ จนเกิดเรื่องบังเอิญที่ผมได้ค้นคว้าเจอผลการวิจัยดีเด่นตั้งแต่ในปี 1960 ที่อธิบายถึงส่วนผสมสำคัญที่ส่งผลต่อการทำงานของระบบการมองเห็นและเส้นประสาทดวงตา
บทวิจัยพูดถึงบิลเบอร์รี่และดอกดาวเรือง ซึ่งเป็นสมุนไพรชนิดสำคัญที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคต้อชนิดต่างๆ และชะลอการเสื่อมสภาพของสายตาตามอายุ แต่ในขณะเดียวกัน ผลสรุปของการวิจัยก็ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอและยังขาดรายละเอียดบางส่วนไป ต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่ออุดช่องโหว่นี้ ผมจึงรีบฉวยโอกาสและตัดสินใจศึกษาส่วนผสมทั้งสองชนิดนี้โดยละเอียด
เริ่มต้นการทดลองทางวิทยาศาสตร์ชนิดใหม่
อดุลย์และอาจารย์ศิริชัยเริ่มศึกษาส่วนผสมที่มีส่วนช่วยบำรุงดวงตา อย่างบิลเบอร์รี่และดอกดาวเรืองอย่างพิถีพิถันในทันที
อย่างแรกเราทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานกับหนูทดลองและได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมากครับ ในขั้นที่สองเราจึงค้นหากลุ่มผู้ร่วมทดลองที่มีความสมัครใจ เพื่อดำเนินการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์นี้ในขั้นต่อไป
ตามที่อาจารย์ศิริชัยเล่า การค้นพบนี้พลิกชีวิตของท่านโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้มีนักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายคนพยายามหาวิธีบรรเทาการเสื่อมสภาพของดวงสายตาตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นมานานแล้ว อาจารย์ก็เคยได้ศึกษาวิจัยผลิตภัณฑ์หลายชนิด แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาส่วนใหญ่นั้นมีประสิทธิภาพต่ำและก่อให้เกิดผลข้างเคียงมากมาย จนไม่สามารถนำไปในการฟื้นฟูสายตาได้เลยครับ
แต่ยังไม่มีใครเคยลองใช้บิลเบอร์รี่และดอกดาวเรืองมาสกัดร่วมกันสำหรับจัดการปัญหาโรคตาชนิดต่างๆ ผลการวิจัยของเราได้พิสูจน์และแสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถใช้ทั้งบิลเบอร์รี่และดอกดาวเรือง 2 ชนิดพร้อมกัน เพื่อบำรุงสายตา บรรเทาอาการโรคตาชนิดต่างๆ (สายตาสั้น สายตายาว ปวดตา ตาพร่ามัว ต้อต่างๆ จอประสาทตาเสื่อม วุ้นตาเสื่อม ฯลฯ) รวมถึงลดโอกาสสูญเสียการมองเห็นในอนาคตได้อย่างปลอดภัย อาจารย์ศิริชัยยังย้ำอีกด้วยว่าผลลัพธ์ที่ได้จากผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่นี้สามารถฟื้นฟูสายตาได้ในระยะยาว
ผลลัพธ์อันน่าเหลือเชื่อ
การทดลองทางคลินิกใช้เวลาหลายเดือนและอาศัยกลุ่มอาสาสมัครจำนวนเกือบ 4,289 คน เหล่าอาสาสมัครนั้นประกอบด้วย ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 - 85 ปี ทั้งเพศชายและหญิง ในการทดลองอาสาสมัครจะถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม 2 ใน 3 ของอาสาสมัครจะได้รับแคปซูลบิลเบอร์รี่และดอกดาวเรืองทุกวัน ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งจะได้รับยาหลอก ไม่มีส่วนผสมใดๆ
หลังจากการทดลองผ่านไประยะเวลากว่า 4 สัปดาห์ นักวิจัยได้รวบรวมผลการวิจัย โดยใช้ไดอารี่ของอาสาสมัครที่จดบันทึกสภาพร่างกายโดยรวมในทุกวัน เพื่อสังเกตวิธีฟื้นฟูการทำงานของดวงตาอย่างต่อเนื่อง
ผลการทดลองในแต่ละกลุ่มแตกต่างกันมากจนผู้วิจัยคาดไม่ถึง อาสาสมัครที่ได้รับยาหลอกมั่นใจว่าตนเองสายตาดีขึ้นในระดับ 2-7% (ซึ่งเมื่อทดสอบด้วยอุปกรณ์การแพทย์กลับไม่พบความเปลี่ยนแปลงทางสายตาแต่อย่างใด) แต่อาสาสมัครกว่า 89% ของกลุ่มผู้ได้รับแคปซูลบิลเบอร์รี่และดอกดาวเรือง เกิดผลลัพธ์ในการฟื้นบำรุงสายตาและปรับปรุงการมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ทางผมและอาจารย์ศิริชัยจึงขอคำแนะนำเพิ่มเติมจาก ศ.นพ.วิริยะ เลิศไพทูลย์ ผู้อำนวยการสถาบันจักษุวิทยาและโรคตาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ท่านไม่ได้เข้าร่วมในการวิจัยดังกล่าวนั้น แต่ท่านยืนยันว่า การดำเนินการทดลองนี้เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานทางการวิจัยอันน่าเชื่อถือ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นก็สร้างความตกตะลึงให้แก่ ศ.นพ.วิริยะ เช่นกัน